วันศุกร์, กรกฎาคม 23, 2547

ปลดแอก Micro$oft หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง

เห็นการผลักดัน(อย่างสิ้นหวัง)ให้คนไทยหันมาใช้งาน Linux แล้วต้องบอกว่าเศร้า เพราะมองไม่เห็นฝั่งฝันเลย ยิ่งมีคนเสนอว่าต้องไล่จับซอฟท์แวร์เถื่อน นี่ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะเหมือนกับผู้ว่าบางคนที่เสนอไอเดียกระฉูดเก็บเงินค่าเอารถเข้ากรุงเทพ ทั้งๆที่บริการขนส่งมวลชนยังห่วยแตกไร้ยางอายสิ้นดี ไม่คิดจะเตรียมทางออกให้ชาวบ้านกันเลยหรือพ่อคุณ!

การนำ Linux ใช้งานแทน Windoze สำหรับ Home User ต้องยอมรับว่ายังไม่ถึงเวลา ต้องยอมรับความจริงว่าเอา Windoze กับ Linux มาตั้งข้างหน้าคนที่ไม่เคยใช้คอมพ์มาก่อน (ไม่มี bias) หัดให้ใช้งานพื้นๆ Office, เช็คเมล์, เล่นเว็บ ฯลฯ พอได้ที่เชื่อได้ว่า 90% ขึ้นไปต้องอยู่ข้าง Windoze แน่

ที่ว่าอย่างนี้ไม่ได้บอกให้นอนรอรับความตาย ปล่อยให้มันเป็นไปเรื่อยๆ เพราะถ้ามองย้อนกลับไปแค่ 3-4 ปี ช่องว่างมันห่างกันกว่านี้มากนัก

ทีนี้คำถามใหม่คือ ถ้า Windoze กับ Linux ทำอะไรได้เท่ากัน (โดยความสามารถนะ ไม่ใช่ compatability) คนจะหันมาใช้ Linux ทันทีหรือไม่?

ผมว่า ไม่

ด้วยความเชื่อส่วนตัวที่ว่า Micro$oft ไม่มีทางยอมให้ format ของ file ของ M$ Office มันคลายความยุ่งเหยิงจน OO.o แกะออก มีแต่จะยิ่งทำให้มันยุ่งเป็นฝอยขัดหม้อ แคะให้ตายก็แคะไม่ออก

แล้วใครหน้าไหนจะหันมาใช้ Linux หรือคิดว่า Micro$oft จะเกิดใจบุญทำ M$ Office for Linux มาโปรดสัตว์ผู้ยาก?

มองย้อนกลับไปหลายปีที่แล้ว หลังจาก Windoze 3.11 ประสบความสำเร็จในการนำ GUI มาสู่ชาวโลก(น้องเปิ้ลไปไหนไม่ทราบ) Micro$oft เปิดโครงการใหม่ OS 32 bit ที่จะนำสัตว์ผู้ยากพ้นจากห้วงทุกข์แห่ง OS 16 bit

มันคือ Windoze NT!

Windozw NT ที่สามารถปลดปล่อยขุมพลังของ Micro Processor 32 bit ออกมาได้เต็มพิกัด พอกันทีกับการจมปลักอยู่กับ Windoze 3.11 ที่ขี่เบนซ์ไปส่งหนังสือพิมพ์ตอนเช้า

ผลลัพธ์ต้องน่าตื่นตลึงแน่นอน!

ใช่ ใช่เลย! Windoze NT เจ๊งครับ เจ๊งหลุดตูด เจ๊งสิ้น หน้าแหกแบบหมอไม่รับเย็บ

เหตุผลนั้นง่ายมาก Windoze NT run application 16 bit ของ Windoze 3.11 ไม่ได้ มันก็เลยไม่มี application ให้ใช้

ก็ user ที่ไหนจะใช้ OS โคตรดีที่ไม่มี application ให้ใช้ล่ะเฮีย?

มองไปที่ฝั่งผู้ผลิต software ก็ไม่มีใครกระดิกตัวมาร่วมวงไพบูลย์ทำ application 32 bit ให้ NT เหมือนกัน

ไม่ใช่ว่าเกลียดหรือกลัว Micro$oft หรอกนะ สมัยนั้นไอ้ตัวน่าหมั่นไส้ยังไม่ใช่ Micro$oft แต่เป็น IcBM (ฮี่ฮี่)

แต่ไม่ทำเพราะไม่รู้จะทำไปทำไม มีเซลส์คนไหนอยากขาย application ที่ทำงานบน OS ไม่มีคนใช้บ้าง (อันนี้ไม่ได้จงใจเสียดสี WARP แต่อย่างใด หุหุ)

ปัญหาแบบงูกินหาง ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน ประมาณนี้เลย!

เรื่องนี้ต้องให้ credit กับ Micro$oft ที่ทะลวงทางตันนี้ได้สำเร็จ โดยการออก OS สุดพิศดารพันลึกระทึกวงการ Windoze 95 ที่ run application ได้ทั้ง 16 ละ 32 bit ทูอินวันมันไปเลย

แต่ที่มันกว่าคือ run application 32 bit ได้แต่ core เจือกเป็น 16 bit ประสิทธิภาพครึ่งบกครึ่งน้ำ ครึ่งผีครึ่งคน (ยังขี่เบนซ์ไปส่งหนังสือพิมพ์ตอนเช้าเหมือนเดิม)

ดูทุเรศเล็กน้อย แต่ใครจะไปแคร์? ในเมื่อภาพมันได้

user มุ่งหน้าเข้าหา OS ตัวใหม่ไฉไลกว่าเดิม แถม run appplication เก่าๆได้สบายบรื๋อสะดือโบ๋

ผู้ผลิต application ก็รีบออก application 32 bit จะได้คุยได้ว่า ของเราแจ๋วกว่า เร็วกว่า เพราะเป็น 32 bit (แต่ลืมบอกไปว่า winapi ก็ยัง 16 bit เหมือนเดิมนะเฮีย)

อานิสงส์ของ 95 ทำให้ NT ลืมตาอ้าปากได้ไปด้วย เปิดทางสู่ยุค Windoze XP เช่นปัจจุบัน (ถึงแม้มรดก 95 มันจะยืนยาวเกินคาด พาดมาไกลถึง ME)

ไม่เรียกช็อตมหัศจรรย์ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว!

เห็นวิธีที่ Micro$oft ปลุกปล้ำ NT แล้ว พลันนึกถึง Linux บ้านเรา

หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง

จะเปลี่ยนพฤติกรรมคนได้ต้องจับจุดให้ถูก!

โดยทั่วไปแล้วเวลาใช้ PC ที่บ้านไม่ต้องคิดอะไรมาก Windoze ก็ได้ Linux ก็ดี แต่เวลาทำงาน ส่ง file จาก OO.o ไปให้คนอื่นนี่เกรงใจจริงๆ จริงๆจะว่าไปแล้วเกรงโดนถีบมากกว่าน่ะ ถึงแม้ว่าจะมี OO.o บน Windoze ก็ตาม แต่ใครจะกล้าบอกให้ลูกค้ากรุณาลง OO.o บนเครื่องท่านหน่อย?

Linux ยังไม่พร้อม ใช่ว่าจะนั่งรอมันสุกงอมร่วงหล่นลงมาเอง ยะงมีบางอย่างที่เราสามารถเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ได้

หากทำให้คนส่วนมากหันมาใช้ OO.o บน Windoze ได้ ถ้า Linux Desktop พร้อมจริง ก็คงไม่มีใครรังเกียจจะย้ายไปใช้ OO.o ต่อบน Linux

ตีลูกขนไก่ให้ไปไกลก็ต้องตีโดนเต็มหัวมัน ตีเฉี่ยวขนไม่ได้ประโยชน์อะไร

สำหรับเมืองไทย ส่วนที่เป็นหัวลูกขนไก่ก็คือ ภาคราชการ นั่นเอง

ถ้าราชการใช้ OO.o เรียกร้องให้คนส่ง file OO.o ให้ ใครหน้าไหนจะกล้าขัด

แม้แต่บริษัทใหญ่ก็ไม่กล้าขัด (จริงๆแล้วเป็นบริษัทใหญ่ๆส่วนมากนั่นแหละที่หากินกับราชการได้มาก)

หากบริษัทใหญ่ใช้ OO.o บริษัทเล็กก็ไม่มีปัญหา เพราะท่านว่าไงก็ว่างั้นอยู่แล้ว

สรุปแล้วทำภาษาไทยบน OO.o ให้นิ่งพอที่ข้าราชการไม่โทรมาจนสายไหม้แล้วประกาศให้เป็น Office แห่งชาติไปเลย หน่วยราชการทุกแห่งให้ใช้เป็นมาตรฐาน

งานนี้ถ้าดันได้สำเร็จ แม้แต่ Micro$oft Thailand ก็ต้องหันมาใช้ OO.o หรือไม่ก็ต้องกลับบ้านไปเลย ก็ลองส่งมาเป็น M$ Word ดูสิ 2 เดือนผ่านไปพ่อเจ้าประคุณยังไม่ทำอะไรให้เลย ไม่ติดต่อกลับด้วย แถมร้องเรียนก็ไม่ได้อีก เพราะมันกลายเป็นกติกาไปแล้ว

มีหวัง Micro$oft Thailand ต้องรีบไปหา OO.o มาลง

มันมั๊ยล่ะ?