วันเสาร์, สิงหาคม 07, 2547

ต่อทะเบียนรถ ผลงานดีเด่นที่ควรศึกษา

เมื่อวานไปต่อทะเบียนรถเองหลังจากที่ไม่เคยไปต่อเองมาหลายปีดีดัก ได้ยินข่าวลือมาว่าเขาปรับปรุงระบบใหม่ใช้เวลาแค่ 5 นาที จากที่แต่เดิมการไปต่อทะเบียนเหมือนกับลาป่วยไปเลย เพราะอย่างน้อยต้องครึ่งวัน หรือถ้าซวยๆอาจจะกลายเป็นอย่างเยอะ คือทั้งวัน

ไอ้ที่ข้องใจคือ ที่"เขาว่า"นั้นมันเป็นที่หมอชิต แต่ของเรานั้นที่ขนส่งฯนนท์

เข้าไปถึงไม่รู้ป้ายไม่อัพเดทหรือเราโง่เอง เลยหลงไปเข้าอาคาร ๑ ตอนที่เข้าไปก็บ่าย ๓ กว่าแล้ว เจอเอาความเงียบเข้าไป นึกว่าปิดแล้ว ถามคนแถวนั้นถึงได้ความว่าต้องไปที่ตึก ๒ แต่พอไหว เดินนิดหน่อย ไม่ถึง ๑๐๐ เมตร

เข้าไปเจอเคานเตอร์เก่าๆแบบราชการ หันซ้ายหันขวาก็ไปเจอเอาตู้กดบัตรคิวแบบที่ใช้ที่ thermal printer กดเสร็จมองซ้ายมองขวาหาที่นั่ง (มีคนนั่งอยู่แค่สิบกว่าคน) ยังไม่ทันได้ก็เรียกคิวแล้ว

ยื่นทะเบียนรถเข้าไป เจ้าหน้าที่หันไปกดก๊อกแก๊กสักพักก็หันมาบอก
"สามพันxxxบาทค่ะ"
"จ่ายที่นี่เลยหรือครับ" ไอ้เราก็งง เพราะปกติมันต้องวิ่งไปจ่ายช่องอื่น
พอเขายืนยันเราก็จ่ายไป เขาหันไปก๊อกแก๊กอีกแป๊บนึงก็หันกลับมาพร้อมกับทะเบียนรถ พร้อมใบเสร็จรับเงินที่อยู่แผ่นเดียวกับป้ายวงกลมอันใหม่

หน้าตาของใบเสร็จนี่เจ๋งมาก มันเป็นกระดาษที่แบ่งเป็นสามส่วน ครึ่งขวาเป็นใบเสร็จรับเงิน ครึ่งซ้ายบนเป็นป้ายวงกลม ครึ่งซ้ายล่างถูกฉีกหายไป คิดเอาเองว่าน่าจะเป็นหลักฐานที่เขาเก็บเอาไว้

เบ็ดเสร็จตั้งแต่กดบัตรคิวจนเดินออกมาใช้เวลาแค่ประมาณ ๑ นาทีแค่นั้นเอง

นี่แหละ one stop service ของแท้ เจ๋งมาก ควรชื่นชมคนทำ(ที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร) ที่สามารถเปลี่ยนนรกให้กลายเป็นสวรรค์ได้

ดูจากขั้นตอน มีจุดที่แตกต่างสำคัญคือ cashier มารวมเป็นคนเดียวกับคนทำเอกสารเลย ซึ่งน่าจะฝืนหลักการควบคุมพื้นฐาน แต่มองอีกแง่ เห็นได้ว่าคนออกแบบ process นี้มองที่ผู้ใช้บริการเป็นหลัก ปล่อยให้การควบคุมหลวมลงนิดนึง แต่ให้ประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้นมาก

ได้ข่าวว่าที่ขนส่งตรงหมอชิตตอนนี้หาที่จอดรถง่ายมาก ไม่แน่นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

มองกลับมาที่ปัญหาของคนดีกับคนดีตอนนี้ น่าลองเอาเรื่องนี้มาเป็นกรณีศึกษาบ้างนะครับ